Human Centric Digitization: เชื่อมช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีและบุคลากรในอุตสาหกรรมการผลิต

Human Centric Digitization

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงาน มีมุมมองที่ต่างกันว่ามันน่าสนุกและมีความท้าทาย การเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีและบุคลากรในอุตสาหกรรมมีความสำคัญมากในปัจจุบัน การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นกุญแจสำคัญในการก้าวนำหน้าในโลกอุตสาหกรรม 4.0 เนื่องจากการเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการผลิตสินค้าและการให้บริการ ทำให้มนุษย์และเทคโนโลยีต้องร่วมมือกัน เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

การเชื่อมช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีและบุคลากรในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพราะถ้าเราสามารถสร้างระบบการทำงานที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human Centric Digitization) โดยให้ความสำคัญกับความสามารถและความรู้ของบุคลากรเชื่อมกับเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เราก็จะสามารถสร้างผลผลิตที่มีประสิทธิภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

การเปลี่ยนแปลงสู่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human Centric Transformation) คืออะไร?

Human Centric Transformation เป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่ความต้องการประสบการณ์ และความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคลภายในองค์กร และยกระดับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล โดยกำหนดให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโซลูชันที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ เข้าถึงได้ และสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ โดยตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ประสบความสําเร็จไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว  แต่ยังผ่านความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรม แรงจูงใจ โดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางเน้นความสำคัญของการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน และปลูกฝังวัฒนธรรมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ประกอบด้วยการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างกระตือรือร้น การมีส่วนร่วมของพนักงานและลูกค้า และการนำความคิดเห็นของพวกเขาไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจ ด้วยแนวทางที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางมาใช้เป็นศูนย์กลางทาใช้ องค์กรจะสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย เพิ่มผลผลิต และสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ให้บุคคลเป็นหัวใจสำคัญของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Benefits of Human Centric Transformation)

การเปลี่ยนแปลงโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางเป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่ทำให้ผู้คนเป็นแกนหลักของความคิดริเริ่มด้านดิจิทัลและขับเคลื่อนผลลัพธ์เชิงบวกสำหรับธุรกิจ โดยการจัดลำดับความสำคัญของประสบการณ์ของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดี ด้วยการมุ่งเน้นที่ความพึงพอใจของพนักงาน จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและมีแรงจูงใจมากขึ้น

ประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงโดยคำนึงถึงมนุษย์เป็นศูนย์กลาง คือความสามารถในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและความคล่องตัวภายในองค์กร ด้วยการรับฟังลูกค้าและพนักงาน ธุรกิจต่างๆ จึงสามารถระบุปัญหาและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกันได้ นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการและความชอบของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางยังส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง องค์กรที่เปิดรับกรอบความคิดในการเรียนรู้จะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่า และอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าในการคว้าโอกาสใหม่ๆ

ท้ายที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงโดยคำนึงถึงมนุษย์เป็นศูนย์กลางจะขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าและใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน ธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน พวกเขายังสามารถนำทางภูมิทัศน์ดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาและนำหน้าคู่แข่งได้สำเร็จ

ที่มาข้อมูล Benefits of Human-Centric Transformation

การเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับเทคโนโลยี

การผสมผสานความแม่นยำของเครื่องจักรกลเข้ากับปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นซับซ้อนและต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกระบวนการและบุคลากรของคุณ จุดมุ่งเน้นคือการสร้างโซลูชันที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ ไม่ใช่แทนที่ความสามารถเหล่านั้น แนวทางนี้ช่วยให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีทำหน้าที่เป็นตัวเปิดใช้งาน โดยเพิ่มทักษะของมนุษย์และสัญชาตญาณในการขับเคลื่อนแนวทางที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง

6 เสาหลักแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลโดยคำนึงถึงมนุษย์เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ มาใช้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือองค์ประกอบของมนุษย์แนวทางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่คำนึงถึงมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human Centric Transformation) ตระหนักดีว่าเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน แต่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงอยู่ที่การให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก

  1. ทำความเข้าใจความต้องการและแรงบันดาลใจของพนักงาน

การตระหนักว่าพนักงานเป็นพลังขับเคลื่อนเบื้องหลังความสำเร็จขององค์กร ด้วยการเข้าใจความต้องการ ความท้าทาย และแรงบันดาลใจ ผู้นำสามารถออกแบบความคิดริเริ่มด้านดิจิทัลที่ยกระดับประสบการณ์การทำงานของตนได้ สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการให้พนักงานมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ การขอคำติชม และการจัดการข้อกังวลของพวกเขา เมื่อพนักงานรู้สึกถึงคุณค่าและได้รับการสนับสนุน พวกเขามีแนวโน้มที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นและความพึงพอใจในงาน

  1.  เสริมศักยภาพพนักงานด้วยเทคโนโลยี

การเปิดโอกาสให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะต่างๆ เพื่อให้มั่นใจพนักงานมีความพร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด  การริเริ่มพัฒนาความรู้ความสามารถทางดิจิทัลช่วยเพิ่มช่วยเพิ่มความมั่นใจและสร้างความมั่นใจว่าพนักงานจะสามารถใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนวทางที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง คือการลงทุนในโปรแกรมการฝึกอบรมและปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องส่งเสริมการรู้ด้านดิจิทัล และเสริมศักยภาพพนักงานด้วยเครื่องมือและทรัพยากรดิจิทัลที่เหมาะสม

  1. การยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

การทำความเข้าใจความต้องการและความชอบของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการออกแบบโซลูชั่นดิจิทัลที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านบริการเฉพาะบุคคล แพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ หรือการสนับสนุนลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ แนวทางที่คำนึงถึงมนุษย์เป็นหลักช่วยให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีจะถูกประยุกต์เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกที่มีความหมายกับลูกค้า ดังนั้น กลยุทธ์ Human Centric Digitization Transformation ควรขยายไปไกลกว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในให้ครอบคลุมลูกค้าและลูกค้าด้วย

  1. การทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม

การทำงานร่วมกันช่วยให้สามารถประสานงานกันระหว่างแผนกต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและตอบสนองต่อความท้าทายได้อย่างคล่องตัว ด้วยการส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดและการแบ่งปันความรู้ระหว่างทีม และองค์กรต่างๆ จึงสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลรวมและมุมมองที่หลากหลายของพนักงาน แนวทางที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางตระหนักดีว่าผู้คนเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลง และด้วยการส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการทำงานเป็นทีม องค์กรสามารถสร้างพนักงานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นได้มากขึ้น ซึ่งพร้อมที่จะเปิดรับโอกาสในยุคดิจิทัล ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยี ทำให้องค์กรสามารถดึงศักยภาพของพนักงานออกมาได้อย่างเต็มที่

  1. ปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลส่งเสริมวัฒนธรรมในการแก้ปัญหาและนวัตกรรม ช่วยให้พนักงานรับผิดชอบงานของตนและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางส่งเสริมให้พนักงานทดลอง แบ่งปันแนวคิด และท้าทายสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการส่งเสริมการคิดแบบดิจิทัล องค์กรสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกมีแรงจูงใจที่จะมีส่วนร่วมในความคิดสร้างสรรค์และข้อมูลเชิงลึก วัฒนธรรมนวัตกรรมนี้กระตุ้นความสามารถขององค์กรในการก้าวนำหน้าคู่แข่งและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

  1. การพิจารณาด้านจริยธรรม

กลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่คำนึงถึงมนุษย์เป็นศูนย์กลางได้นำเอาข้อพิจารณาด้านจริยธรรมมาปรับใช้เทคโนโลยี โดยเน้นถึงการใช้ข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และสร้างความมั่นใจว่าความคิดริเริ่มด้านดิจิทัลจะไม่ส่งผลเสียต่อพนักงาน ลูกค้า หรือสังคมโดยรวม การเคารพมาตรฐานทางจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม สามารถสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือ เสริมสร้างชื่อเสียงขององค์กรในด้านดิจิทัล การนำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ การรับรองความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และมีความโปร่งใสในการใช้ข้อมูลลูกค้า

ที่มาข้อมูล : Pillars of a Human-Centric Digital Transformation

สรุป

        ดังนั้น เราควรให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการทำงานที่ทันสมัยและมีมนุษย์เป็นหัวใจหลักในอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อให้เราสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของเราให้มีคุณค่าและแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้งองค์กรและบุคลากรในลักษณะที่เป็นสมดุลและยั่งยืนที่สุด

Scroll to Top