สิ่งที่ทุกคนต้องการในปัจจุบันคือการใช้พลังงานที่มีความเสี่ยงการเป็นสารพิษต่ำและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พลังงานหมุนเวียนมีความสำคัญสำหรับการพัฒนาของโลกเราในปัจจุบัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ทุกคนกำลังใส่ใจมากขึ้นและเร่งด่วนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนกำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกยุคใหม่ ที่พลังงานจากฟอสซิลเริ่มร่อยหรอ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความผันผวนทางเศรษฐกิจ พลังงานหมุนเวียนจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการพลังงานอย่างยั่งยืน การใช้พลังงานหมุนเวียนไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้กับอุตสาหกรรมและธุรกิจให้เติบโตมากขึ้นและมีความยั่งยืนในระยะยาว ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้งานพลังงานหมุนเวียนได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคทั่วไปหรือธุรกิจขนาดใหญ่
พลังงานหมุนเวียน คืออะไร ?
พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) คือพลังงานที่ใช้ไม่มีวันหมด สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ มีแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานคลื่น และเชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงผลผลิตและวัสดุซากที่ใช้แล้วจากการเกษตร หรือมูลสัตว์ ก็สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันพลังงานหมุนเวียนเป็นพลังงานทางเลือกที่นำมาใช้ทดแทนพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานหมุนเวียนจึงถือเป็นพลังงานสะอาด ไม่ก่อมลพิษ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แถมทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
ประเภทของพลังงานหมุนเวียน


- พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy)
พลังงานแสงอาทิตย์ คือ พลังงานจากดวงอาทิตย์จัดเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญที่สุด เป็นพลังงานสะอาดไม่ทำปฏิกิริยาใดๆ อันจะทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เซลล์แสงอาทิตย์ทำมาจากสารกึ่งตัวนำพวกซิลิคอน มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า เนื่องจากสามารถเปลี่ยนเซลล์แสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง
- พลังงานน้ำ (Hydropower)
พลังงานน้ำ คือ แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ไม่มีวันหมดบนพื้นผิวโลกปกคลุมไปด้วยน้ำประมาณ 70 % ซึ่งเรียกว่า วัฏจักรของน้ำ รวมถึงยังเป็นแหล่งพลังงานศักย์ของน้ำให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยอาศัยแรงดึงดูดของโลกและความสูงของน้ำตกหรือเขื่อน พลังงานน้ำนับเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองจากพลังงานลม ปัจจุบันมีการนำพลังงานน้ำไปหมุนกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า
- พลังงานลม (Wind Energy)
พลังงานลม คือ พลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของลมเป็นปรากฏการทางธรรมชาติ เกิดจากพลังงานจากดวงอาทิตย์ตกกระทบโลกทำให้อากาศร้อน และลอยตัวสูงขึ้น อากาศจากบริเวณอื่นซึ่งเย็นและหนาแน่นมากกว่าจึงเข้ามาแทนที่ การเคลื่อนที่ของอากาศเหล่านี้เป็นสาเหตุให้เกิดลม และมีอิทธิพลต่อสภาพลมฟ้าอากาศในบางพื้นที่โดยใช้กังหันลมในการแปลงพลังงานจลน์ของลมให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า พลังงานลมจัดเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ
- พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy)
พลังงานความร้อนใต้พิภพ คือ พลังงานความร้อนที่สะสมอยู่ใต้ผิวโลก ซึ่งเกิดจากการสลายตัวของสารกัมมันตภาพรังสีและความร้อนตกค้างจากการกำเนิดโลก พลังงานความร้อนนี้จะถูกถ่ายเทขึ้นสู่ผิวโลกในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำพุร้อน ไอร้อน และหินหนืด
- พลังงานชีวมวล (Biomass)
พลังงานชีวมวล คือ พลังงานที่เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพสูง เป็นพลังงานที่ได้จากวัสดุอินทรีย์ (Organic Matter) เช่น พืช สัตว์ และเศษวัสดุเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และชุมชน โดยผ่านกระบวนการทางเคมี ฟิสิกส์ หรือชีวภาพ เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปแบบต่างๆ เช่น พลังงานความร้อน พลังงานไฟฟ้า และเชื้อเพลิงชีวภาพ
ที่มาข้อมูล : พลังงานหมุนเวียน
การประยุกต์ใช้พลังงานหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการผลิต
- สร้างความร้อนที่สะอาด
กระบวนการทางอุตสาหกรรมหลายประเภทต้องใช้ความร้อนปริมาณมากในการทำงานที่จำเป็น รวมถึงการแปรรูปแร่ งานโลหะ เกษตรกรรม และการแปรรูปอาหาร ความไม่แน่นอนของราคาเชื้อเพลิง รวมถึงการเรียกร้องให้เลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หมายความว่าบริษัทที่พึ่งพาการสร้างความร้อนมีแรงจูงใจอย่างมากในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน การเสนอไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งหมุนเวียนเพื่อกักเก็บความร้อนตามความต้องการ ห้องต่างๆ จะประกอบด้วยหินและวัสดุ ซึ่งจะปล่อยความร้อนเมื่อเปลี่ยนจากของแข็งเป็นของเหลว หรือในทางกลับกันการทำเช่นนี้ให้ประสิทธิภาพการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ใช้ส่วนประกอบทางอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน
- ขับเคลื่อนองค์กรการผลิต
แผงโซลาร์เซลล์คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเมื่อพูดถึงพลังงานหมุนเวียน แหล่งพลังงานนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 50% ในแต่ละปีในช่วงที่ผ่านมา ความต้องการไฟฟ้าในสถานที่ตั้งธุรกิจจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป การประยุกต์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในนิคมอุตสาหกรรมมีมากมาย ไฟฟ้าคิดเป็นประมาณ 20% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในการผลิตอะลูมิเนียม อุปกรณ์สร้างแสงสว่างและความเย็น
- มองไปข้างหน้า
พลังงานหมุนเวียนเป็นเรื่องของการมองไปข้างหน้า หากต้องการพลังงานหมุนเวียนเป็นหลักสำหรับอนาคตให้พิจารณาความจริงที่ว่าพลังงานหมุนเวียนมีความสำคัญมากขึ้นในการจัดหาพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมแล้ว ยังมีระบบชีวมวลอีกด้วย เช่น ในฟาร์ม โรงเลื่อยไม้ และสถานที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ระบบชีวมวลสามารถอำนวยความสะดวกในการผลิตไฟฟ้าหรือให้ความร้อน ด้วยต้นทุนที่ต่ำวัตถุดิบตั้งต้นอาจรวมถึงของเสียจากการแปรรูปไม้ ของเสียทางการเกษตร เช่น ข้าวโพดและข้าว ปุ๋ยคอก และขยะมูลฝอยประเภทอื่นๆ จากฟาร์มหรือของชุมชนพลังงานทดแทนมีการใช้งานมากมายในอุตสาหกรรม เมื่อองค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ต้นทุนที่ลดลงและสิ่งจูงใจที่เพิ่มเข้ามาก็จะมีความน่าดึงดูดมากขึ้นเท่านั้น
ที่มาข้อมูล : Industrial Applications of Renewable Energy
ประโยชน์ของพลังงานหมุนเวียนต่อการผลิต


- พลังงานหมุนเวียนช่วยให้ผู้ผลิตลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ผู้ผลิตตระหนักดีอยู่แล้วว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งสำคัญ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่ที่เกิดจากการผลิตมาจากการใช้พลังงาน ผลกระทบที่ธุรกิจสามารถมีต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือการใช้พลังงานทดแทนแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว การใช้พลังงานหมุนเวียนยังช่วยให้ผู้ผลิตปรับปรุงความมั่นคงด้านพลังงานได้อีกด้วย ด้วยการกระจายแหล่งพลังงาน การนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สร้างงาน และผลักดันการลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด
- พลังงานหมุนเวียนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทาน
การปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมดของบริษัทส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นต้นน้ำหรือปลายน้ำ ผู้ผลิตหลายรายพึ่งพาซัพพลายเออร์ในการจัดหาสินค้าและบริการ แต่ซัพพลายเออร์ทั้งหลายอยู่ห่างไกลซึ่งหมายความว่าสามารถสร้างการปล่อยมลพิษตลอดการขนส่ง นั่นคือสาเหตุที่ผู้ผลิตจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน ด้วยการขอให้ห่วงโซ่อุปทานใช้พลังงานหมุนเวียน ผู้ผลิตแนะนำนโยบายการจัดซื้ออย่างยั่งยืนแจ้งให้ซัพพลายเออร์ทราบว่าสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญต่อธุรกิจ
- การเป็นผู้ประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดสำหรับพนักงาน
พนักงานเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำงาน ทีมวิจัยที่นำโดย Dr. Chris Brauer ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมที่ Goldsmiths มหาวิทยาลัย ของลอนดอน รายงาน Accelerating the Journey to Net Zero แสดงให้เห็นว่าพนักงานสนับสนุนกลยุทธ์ความยั่งยืนขององค์กร โดย 60 % กล่าวว่ากลยุทธ์ดังกล่าวทำให้นายจ้างมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วยเหตุนี้ นายจ้างที่แสดงความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมจึงถูกมองว่าน่าเชื่อถือและน่าดึงดูดใจสำหรับผู้มีโอกาสเป็นพนักงานมากกว่า นอกจากดึงดูดผู้มีความสามารถที่ดีขึ้นแล้ว นายจ้างดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะรักษาพนักงานหลักไว้ได้นานขึ้น
- การมีนโยบาย ESG ทำให้บริษัทแตกต่างจากคู่แข่ง
ESG (Environment, Social, Governance: ESG) คือ แนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน จะคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล นโยบาย ESG ที่มีประสิทธิผลแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของบริษัท สร้างความไว้วางใจและความมั่นใจ นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผลกำไรด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และลดความเสี่ยงในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน บริษัทที่ปรับใช้นโยบาย ESG จะถูกมองว่ามีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่า ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังรวมถึงมลพิษทางอากาศและสุขภาพด้วย
- พลังงานหมุนเวียนหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาและช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาว
พลังงานหมุนเวียนเป็นรูปแบบหนึ่งของการผลิตพลังงานที่ถูกที่สุดและสามารถช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุนระยะยาวได้ การมีอุปทานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ผู้ผลิตสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้ราคาไฟฟ้าสูงขึ้นในอนาคต และรักษาต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น เนื่องจากต้นทุนที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มคงที่ นอกจากนี้พลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มจะมีราคาถูกกว่าพลังงานรูปแบบดั้งเดิม ในขณะที่ต้นทุนของเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบดั้งเดิมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมคาดว่าจะยังคงสูงกว่าในปี 2565 และ 2566 เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าขนส่งที่สูงขึ้นโดยทั่วไป ความสามารถในการแข่งขันสูง เนื่องจากราคาก๊าซและถ่านหินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากขึ้น
ที่มาข้อมูล : Benefits of renewable energy on manufacturing
สรุป
อนาคตที่ใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตของโรงงานยุคใหม่นั้น เป็นการแสดงถึงแนวโน้มที่มุ่งหวังในการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกิจการอุตสาหกรรม การเปลี่ยนผ่านไปสู่โรงงานพลังงานหมุนเวียน ไม่เพียงเป็นโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้าง